อะตอมและพันธะเคมี

อะตอมและพันธะเคมี ความคิดที่ว่าสิ่งต่าง ๆ ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กมาก ในสมัยกรีกโบราณ Dimocritus เป็นนักปรัชญาชาวกรีกที่คิดว่า ถ้าเราแบ่งวัตถุออกเป็นหน่วยที่เล็กกว่าและเล็กกว่า ในที่สุดเราจะได้หน่วยย่อยเพิ่มเติมที่ไม่สามารถแบ่งออกได้อีก และหน่วยย่อยนี้เรียกว่าอะตอม มาจากภาษากรีก atomos แปลว่า แยกไม่ออก ต่อมานักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับอะตอม เพื่อใช้ในการศึกษาอะตอม ดังนี้   อะตอมและพันธะเคมี วิวัฒนาการของแบบจำลองอะตอม อะตอมและพันธะเคมี เพราะอะตอมมีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ความรู้เกี่ยวกับอะตอมได้มาจากการตีความข้อมูลการทดลอง และใช้สร้างโมเดลที่วิวัฒนาการดังนี้ ในปี 1803 เซอร์ จอห์น ดาลตัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เสนอทฤษฎีอะตอมว่าอะตอมมีขนาดเล็ก อะตอมที่แบ่งแยกไม่ได้และไม่สามารถย้อนกลับได้ของธาตุเดียวกันมีคุณสมบัติเหมือนกัน แต่ต่างจากอะตอมของธาตุอื่นๆ ดาลตันยังแนะนำว่าสารประกอบประกอบด้วยอะตอมของธาตุมากกว่าหนึ่งชนิดที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีต่อกันในเศษส่วนเล็กๆ ต่อจากนั้น มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอะตอมและข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับแนวคิดของดัลตัน เช่น อะตอมที่แยกออกได้ ทฤษฎีอะตอมใหม่เริ่มพัฒนา ในปี 1886 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Eugen Goldstein ได้ทำการทดลองเพื่อศึกษาอะตอมและค้นพบอนุภาคที่มีประจุบวกที่เรียกว่าโปรตอน ได้ทำการทดลองเพื่อศึกษาอะตอมด้วย อะตอมทั้งหมดพบว่าประกอบด้วยอนุภาคที่มีประจุลบที่เรียกว่าอนุภาคอิเล็กตรอนจากการทดลองข้างต้น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ทอมสัน ดังนั้นแบบจำลองของอะตอมทรงกลมที่มีอะตอมที่มีประจุบวกและอิเล็กตรอนที่มีประจุลบจึงกระจัดกระจาย ในปี 1911 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ลอร์ด เออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด […]